ชนิดของ Air Filter สำหรับกรองฝุ่น |
โดยทั่วไป สามารถแบ่งคร่าวๆได้ 5 ชนิด ไล่จากฟิลเตอร์ที่มีตาถี่ ดักฝุ่นขนาดเล็กได้ดี
ไปยังฟิลเตอร์ตาห่างซึ่งเอาไว้ดักเฉพาะฝุ่นขนาดใหญ่ ได้ดังนี้
1. ULPA (Ultra Low Particulate Air) ดักฝุ่นขนาด 0.1μm ขึ้นไป ได้ 99.9995%
2. HEPA (High Efficiency Particulate Air) ดักฝุ่นขนาด 0.3μm ขึ้นไป ได้
99.97%
ห้องคลีนรูมส่วนใหญ่ที่ยึดตามมาตรฐาน ISO จะระวังฝุ่นขนาด 0.5μm จึงนิยมใช้รุ่นนี้
3. Semi-HEPA ดักฝุ่นขนาด 0.3μm ขึ้นไป ได้ 95-99%
4. MEPA (Medium Efficiency Particulate Air) ดักฝุ่นขนาด 1-2μm ขึ้นไป ได้
60-95%
5. Pre-filter ดักฝุ่นขนาด 1μm ขึ้นไป ได้ 60-95%
ควรเลือกชนิดของ Filter ให้เหมาะกับฝุ่นที่เฝ้าระวัง เพราะ Filter ที่กรองฝุ่นขนาดเล็กได้ดี
แสดงว่ามีตาถี่ลมผ่านยาก
ถ้าลมผ่านยากเกินไป ลมจะเบา ต้องใช้พัดลมตัวใหญ่ กินไฟเยอะ
ในขณะเดียวกัน Filter ตาห่างจะช่วยให้ลมผ่านง่าย ได้ลมที่เยอะขึ้น
อนึ่ง ตัวเลขในที่นี้เป็นเพียงตัวเลขคร่าวๆ ที่พูดถึงฟิลเตอร์โดยทั่วไป ซึ่งในความเป็นจริง อาจมีสเปคที่แตกต่างกันไปตามแต่ละผู้ผลิต
และนอกจากนี้ อาจมีฟิลเตอร์ ชนิดอื่นๆอีก เช่น ฟิลเตอร์สำหรับกรองสารเคมี
เป็นต้น
|
วิธีบำรุงรักษา Filter ใน FFU |
1. Pre-fitler ตรงด้านป้อนลมเข้า ควรถอดออกมาทำความสะอาดโดยใช้เครื่องดูดฝุ่น อาทิตย์ละครั้ง หรือเดือนละครั้ง
แล้วแต่สภาพแวดล้อม หากเลอะฝุ่นมากๆ ให้ล้างด้วยน้ำเปล่าได้ แต่หากล้างครบ
5 ครั้งแล้วควรเปลี่ยนใหม่
2. HEPA filter *ไม่สามารถทำความสะอาดด้วยเครื่องดูดฝุ่น หรือล้างน้ำได้* หากเครื่องวัดความดันต่างระหว่างด้านลมเข้าและลมออกให้ผลสูงกว่าตอนที่เริ่มใช้ถึงเท่าตัว
แสดงว่าฟิลเตอร์เริ่มตันแล้วควรเปลี่ยนใหม่ โดยทั่วไป ควรเปลี่ยนทุก 1-2 ปี |
วิธีบำรุงรักษา Filter ใน Air Shower |
1. Pre-fitler วิธีบำรุงรักเษาเหมือน FFU
2. HEPA filter ให้เปลี่ยนเมื่อเครื่องวัดความดันระหว่างด้านลมเข้าและลมออกให้ผลสูงถึง 250Pa
(ตอนใช้ใหม่ๆจะอยู่ที่ 100-150Pa) แสดงว่าฟิลเตอร์เริ่มตันแล้วควรเปลี่ยนใหม่
โดยปกติ HEPA Filter 1 ตัว จะใช้งานได้ประมาณ 5 ปี
|